บทที่ 1
มนุษย์เป็นสัตว์สังคมที่มีการตั้งถิ่นฐาน
อยู่กันเป็นหมู่เหล่าตั้งแต่โบราณกาลมาแล้ว หน่วยเล็กที่สุดของสังคม คือ ครอบครัว
ขนาดใหญ่ขึ้นมาเป็น หมู่บ้าน ตำบล อำเภอ จนในที่สุดเป็นเมือง และเป็นประเทศ
ตามลำดับ มนุษย์แต่ละหมู่เหล่ามีการติดต่อสื่อสารพบปะกันเพื่อแลกเปลี่ยนอาหาร
สิ่งของเครื่องใช้ ยารักษาโรค
ที่ชุมชนของตนไม่สามารถผลิตได้หรือผลิตได้ไม่เพียงพอ ฯลฯ
จนเกิดเป็นการค้าขายระหว่างหมู่บ้าน ตำบล เมือง และประเทศขึ้น การติดต่อในยุคแรกๆ
เป็นการบอกกันปากต่อปาก ต่อมามีการสื่อสารกันด้วยตัวอักษร ที่จารึกบนวัสดุต่างๆ
ซึ่งกลายมาเป็นการส่งจดหมายถึงกัน จากนั้นมีการสื่อสารกันด้วยวิธีการที่หลากหลายและมีความรวดเร็วมากขึ้น
ทำให้เกิดการพัฒนาอย่างต่อเนื่องของเทคโนโลยีโทรคมนาคม
ซึ่งอาศัยหลักวิชาด้านวิศวกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ เปลี่ยนคำพูด ข้อความหรือภาพ
เป็นสัญญาณไฟฟ้าส่งไปตามสาย หรือเปลี่ยนเป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า เรียกว่า
คลื่นวิทยุกระจายไปในอากาศ เมื่อถึงปลายทางสัญญาณ หรือคลื่น ที่ ส่งไปนั้น
จะถูกคืนสภาพให้กลับ เป็นคำพูด ข้อความ
หรือภาพเหมือนกับสิ่งที่ส่งออกไปจากต้นทาง พัฒนาการของเทคโนโลยี โทรคมนาคมนี้
ทำให้คนที่อยู่คนละซีกโลกกันสามารถรับรู้ข่าวสารของกันและกันได้ภายในชั่วพริบตา
เพราะอัตราความเร็วของการเดินทางของสัญญาณไฟฟ้าตามสาย หรือของคลื่นวิทยุนั้น
อยู่ในระดับเดียวกับความเร็วของแสง เช่น เหตุร้ายจากการก่อวินาศกรรม
โดยใช้เครื่องบินโดยสารที่ถูกจี้บังคับ มาชนตึกเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ ที่นครนิวยอร์ค
เมื่อ วันที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2544 นั้นคนทั้งโลกได้เห็นเหตุการณ์สดๆ
ผ่านเครือข่ายข่าวโทรทัศน์ของซีเอ็นเอ็น
เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่พึ่งมีขึ้นในช่วงเวลาประมาณ
20 ปีที่ผ่านมานี่เอง
เป็นเทคโนโลยีที่เกิดจากการรวมเทคโนโลยี 2 ประเภทเข้าด้วยกัน คือ
1. เทคโนโลยีโทรคมนาคม
2. เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
สารสนเทศ หมายถึง
ตัวเนื้อหาสาระของข้อมูลข่าวสาร โดยใช้คอมพิวเตอร์ทำหน้าที่รวบรวม
จัดเก็บปรับเปลี่ยนรูปแบบของสารสนเทศและใช้เทคโนโลยีโทรคมนาคมซึ่งพัฒนามา
จากเครือข่ายโทรทัศน์และเครือข่ายวิทยุมาสร้างระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ขึ้น เป็นการนำเอาความสามารถของคอมพิวเตอร์
(คำนวณ ประมวลผล เปรียบเทียบ และตรวจสอบ ได้รวดเร็ว ถูกต้องแม่นยำ)
มารวมกับความสามารถของระบบโทรคมนาคม (ติดต่อได้รวดเร็วและกว้างไกล)
ดังนั้นเทคโนโลยีสารสนเทศ
จึงหมายถึง เทคโนโลยีที่ใช้ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์มาจัดการเกี่ยวกับสารสนเทศนั่นเอง
ภาพแสดงเหตุการณ์เครื่องบินพุ่งชนตึกตึกเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์
ที่นครนิวยอร์ค เมื่อวันที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2544
ปัจจุบัน นี้มีการใช้ คำว่า
เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ซึ่งตรงกับ คำภาษาอังกฤษ ว่า Information and Communication
Technology : ICT กันอย่างแพร่หลาย
เนื่องจากเทคโนโลยีสารสนเทศพัฒนาบนพื้นฐานของระบบคอมพิวเตอร์
ซึ่งกำลังเจริญขึ้นอย่างรวดเร็ว อีกด้านหนึ่ง คือ เทคโนโลยีการสื่อสาร
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การสื่อสารไร้สายก็กำลังพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว เช่นกัน
ทำให้เกิดการใช้งาน ในรูปแบบใหม่ ๆ มากขึ้น โดยไม่ต้องอาศัยระบบคอมพิวเตอร์
ตัวอย่าง เช่น การทำธุรกรรมต่างๆ ผ่านโทรศัพท์มือถือ ได้แก่ m-Shopping ( การซื้อสินค้าผ่านโทรศัพท์มือถือ) m-Banking (การสั่งจ่ายเงินหรือโอนเงินจากธนาคารผ่านโทรศัพท์มือถือ) m-commerce (ธุรกิจผ่านมือถือ) เป็นต้น นอกจากนี้บริการสอบถาม
และแจ้งข้อมูลทางโทรศัพท์ ซึ่งใช้ได้ตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน ที่เรียกว่า
ศูนย์ให้บริการ (Call
Center) เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของพัฒนาการใหม่ด้านการสื่อสารในกรณีของ
Call Center แม้ว่าจะต้องมีระบบคอมพิวเตอร์ติดตั้งอยู่ทางด้าน
ผู้ให้บริการ แต่ทางด้านผู้รับบริการใช้เพียงโทรศัพท์ก็สามารถรับบริการได้ซึ่งแตกต่างจาก
ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างอินเตอร์เน็ตที่ผู้ใช้บริการต้องมีระบบ คอมพิวเตอร์
ที่เชื่อมต่อกับเครือข่าย อย่างไรก็ตาม ในอนาคตไม่ไกลนัก
เทคโนโลยีสารสนเทศและเทคโนโลยีการสื่อสาร มีแนวโน้มจะรวมเข้าด้วยกัน ดังจะเห็นได้จากโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ๆ
ที่สามารถรับส่งอีเมล์ได้
คอมพิวเตอร์พกพาบางรุ่นก็สามารถใช้เป็นโทรศัพท์มือถือได้ด้วยวิธีการผสมผสาน
เทคโนโลยีทั้งสองด้านนี้ เรียกว่า คอนเวอร์เจนซ์ (Convergent)